แกงส้มฟักทองใส่เห็ดเข็มทอง อาหารคลีนแซ่บซี้ด

เราคนไทยอาหารที่ถูกปากคงหนีไม่พ้นรสชาติแซ่บซี้ดถึงใจ แต่เมื่อพูดถึงรสชาติแซ่บซี้ดใครๆ ก็ต้องนึกถึงอาหารยำ หรือต้มยำ แต่อาหารไทยๆ ที่มีรสชาติแซ่บซี้ดถึงใจอย่างแกงส้มก็อร่อยแซ่บไม่แพ้กันเลย แถมสามารถแก้เรื่องหวัด หรืออากาศเปลี่ยนได้ดีถ้าเมื่อไหร่โดนฝนการกินแกงส้มเข้าไปถือว่าเป็นอาหารยาแก้หวัดสำหรับคนสมัยก่อนได้ดีมากกว่าการกินยา
วัตถุดิบ และเครื่องปรุง (ต่อหม้อ 2 คนกิน)
- พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด (แช่น้ำไว้)
- หอมแดงไทย 8 หัว
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ ครึ่งช้อนชา
- มะขามคั้นน้ำต้มสุกให้ข้น (เนื้อมะขาม 1 ขีดกับน้ำ 250 มก.)
- น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อปลาช่อน เนื้อปลาตะเพียง นึ่งแกะเอาแต่เนื้อ ตำให้ละเอียด
- เห็ดเข็มทองลวก
- เนื้อฟักทอง ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นพอคำ
วิธีทำ
1.นำฟักทองที่ปอกหั่นมานึ่งเป็นเวลา 20 นาที
2.เห็ดเข็มทองมาลวก (อย่าให้สุกมากเพราะต้องเผื่อตอนใส่ลงแกงส้ม)
3.นำหอมแดง พริกชี้ฟ้าแห้งที่แช่น้ำแล้วมาตำ หรือปั่น ตั้งน้ำครึ่งหม้อผสมเครื่องแกงที่ตำลงไปพร้อมน้ำมะขาม 3 ทัพพีตั้งไฟให้เดือดใส่เนื้อปลาที่แกะออกมาตำลงไปละลายในน้ำ เมื่อทุกอย่างเดือดแล้วใส่ฟักทอง และเห็ดเข็มทองที่สุกแล้ว ชิมรสให้ออกรสเปรี้ยวนำตามด้วยเผ็ด และเค็มหวานใกล้เคียงกัน ปิดไฟ
4.หากใครที่ไม่ชอบกินเนื้อปลาแบบธรรมชาติแนะนำให้นำกระชายหั่นฝอยเล็กน้อยตำลงพร้อมกับหอมแดง และพริกชี้ฟ้าแห้ง เพื่อให้กลบกลิ่นเนื้อปลาธรรมชาติ ให้กินตอนร้อนๆ จะช่วยให้สมุนไพรที่อยู่ในเครื่องแกงป้องกันหวัด และภูมิแพ้จากอากาศเปลี่ยนแปลงได้
เพิ่มเติม
1.ควรใส่ทุกอย่างให้เสร็จทั้งเครื่องแกงที่ตำ ส้มมะขาม หรือน้ำมะขาม แล้วค่อยใส่เนื้อปลาที่เราตำละเอียดลงไปละลายน้ำที่ผสมเครื่องแกงไว้แล้ว น้ำต้องเดือดตอนใส่เนื้อปลา
2.สาเหตุที่ต้องนึงฟักทองเพราะต้องการให้เนื้อฟักทองไม่เละ และพอดีไม่แข็ง ไม่เละละลายลงไปในน้ำแกงส้ม
3.สาเหตุที่ต้องลวกเห็ดเข็มทองก่อนใส่ในน้ำแกงส้มเพราะ ป้องกันน้ำจากเห็ดหลังสุกออกมาเจือจางน้ำแกงส้มจะทำให้รสชาติไม่เข้มข้น และมีกลิ่นเห็ดมากเกินไป
4.เนื้อปลาที่แนะนำให้ใช้มีปลาช่อนเพราะเนื้อจะฟู หากไม่มีเลือกเป็นเนื้อปลากะพง แต่ไม่แนะนำเนื้อปลาอินทรีย์ หรือเนื้อปลากรายเพราะคุณสมบัติเนื้อปลา 2 ชนิดนี้มีลักษณะหนึบเหมาะในการทำลูกชิ้น หรือทอดมันมากกว่ามาละลายทำน้ำแกง
#อาหารคลีน #แกงส้ม